เสียบอลเตะตายไม่ชนะ! 5 ประเด็น 10 ลิเวอร์พูล บุก นิวคาสเซิ่ล

จากผลงานอันยอดเยี่ยมดังกล่าวทำให้ลิเวอร์พูลสร้างสถิติเอาชนะนิวคาสเซิ่ลในเกมลีกเป็นครั้งที่ 3 ติดต่อกันเป็นครั้งแรกเช่นกัน

1.สาลิกาส่งชุดเดิมไปทำสงคราม

เอ็ดดี้ ฮาว ผู้จัดการทีมนิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ยังคงใช้รายชื่อตัวจริงเดิมในทุกตำแหน่งนับตั้งแต่พ่ายแพ้ต่อแมนเชสเตอร์ ซิตี้ 1-0 ในการมาเยือนของลิเวอร์พูล ซึ่งเป็นทีมที่เขาเจอกับสถิติหายนะในการเผชิญหน้า ด้วยกัน

โดยเฉพาะในแผงรุก อเล็กซานเดอร์ อิซัค และแอนโทนี่ กอร์ดอน ยังได้รับความไว้วางใจให้ชกต่อหน้าคัลลัม วิลสัน และฮาร์วีย์ บาร์นส์ ที่ยังนั่งอยู่ข้างสนาม

ลูอิส ฮอลล์ กองหลังวัย 18 ปี ที่เพิ่งย้ายจาก เชลซี แบบยืมตัว ไม่ได้มีส่วนร่วมกับเกมดังกล่าว แต่ โชลินตัน กองกลางแซมบ้า ที่ได้รับบาดเจ็บจนถูกเปลี่ยนตัวในเกมกับ เซเรีย อา บลู ยังสามารถเล่นได้เหมือนจริง ผู้เล่น

2.หงส์ใช้เอนโดแท้

เจอร์เก้น คล็อปป์ ผู้จัดการทีมลิเวอร์พูล ปรับสองแต้มจากการถล่มบอร์นมัธ 3-1 โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อกองหลังชาวฝรั่งเศส อิบราฮิมา โคนาเต้ ไม่สามารถลงเล่นได้

ด้วยเหตุนี้นายใหญ่เมืองเบียร์จึงส่ง โจเอล มาติป ลงชกแทน ขณะที่อีกตำแหน่งคือ วาตารุ เอ็นโดะ กองกลางทีมชาติญี่ปุ่น ออกสตาร์ตตามที่คาด แทนที่ ดิโอโก โชตะ ที่หลุดออกไปแทน จอง

3. เทรนด์พลาด ก่อนที่ฟาน ไดจ์คจะตามมา

จนถึงวันนี้ การเล่นแนวรับยังคงเป็นจุดอ่อนของ เทรนท์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ แบ็กขวาตัวรุกไม่เปลี่ยนแปลง เนื่องจากทำพลาดแย่งบอลกลับมาตามหลัง โม ซาลา เขาหลุดเท้าและให้โอกาสปีกซ้ายจัดแบบกอร์ดอนที่ยิงนัดเดียวให้นิวคาสเซิ่ลขึ้นนำในนาทีที่ 25

เท่านั้นยังไม่พอ สามนาทีต่อมา หงส์แดงเจอหายนะครั้งใหญ่ตามมาติดๆ เมื่อ เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค สกัดกั้น อิซัค ที่หน้าเขตโทษ เนื่องจากเขาเป็นนักเตะคนสุดท้ายของ ลิเวอร์พูล จึงเลี่ยงไม่ได้ที่จะโดน และจังหวะนี้ไม่น่าจะอุทธรณ์โทษแบนได้สำเร็จเหมือนอย่างกรณีของ อเล็กซิส แม็คอัลลิสเตอร์ จากเกมกับบอร์นมัธ

ยิ่งไปกว่านั้น คล็อปป์ยังเลือกแทนที่หลุยส์ ดิอาซด้วยโจ โกเมซ แทนฟาน ไดจ์ค ซึ่งน่าเสียดายทีมเยือนไม่น้อยเพราะก่อนที่ทีมจะโดนเด้งสองครั้งทางปีกขวา ทีมชาติโคลอมเบียกำลังแย่งตัวคีแรน ทริปเปียร์ ที่อันตราย

ใบแดงของเซ็นเตอร์ฮาล์ฟชาวดัตช์ส่งผลให้หงส์แดงโดนไล่ออกในเกมพรีเมียร์ลีกติดต่อกันเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนมีนาคม-เมษายน 2015 ในเกมกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และอาร์เซนอลซึ่งกินเวลา 139 นัด

จบครึ่งแรก ลิเวอร์พูล ยังคงต้านทานเกมรุกของเจ้าบ้านได้ดี โดยเป็นรองแค่เมล็ดเดียว และมี อลิสซอน ช่วยเซฟบอลยาก โดยทีมเยือนมีสถิติด้อยกว่า แม็กพาย ในแง่ระเบียบ แต่ก็ไม่ได้แย่ขนาดนั้น . จากการครองบอลซึ่งนิวคาสเซิ่ลมีความเหนือกว่า 54:46% และการยิงประตูที่ทีมอีสานทำได้รวม 8 ครั้งเข้าเฟรม 4 ครั้ง ขณะที่ลิเวอร์พูลได้ง้าง 4 ครั้งและเข้ากรอบ 2 ครั้ง

4. นูเนซ ลงโทษเจ้าบ้านที่เสียโอกาส

และสุดท้ายลิเวอร์พูลก็สามารถเอาชนะนิวคาสเซิ่ลได้อีกครั้งแม้ว่าจะมีผู้เล่นเหลือสิบคนก็ตาม แต่ก็ช่วยไม่ได้ที่ สาลิกาดง เป็นคนไม่เด็ดขาด นอกจากจะใช้โอกาสเสียโอกาสตีสองตาข่ายปิดเกมไม่ได้แล้วจากหลายจังหวะที่ทั้งกอร์ดอนและโดยเฉพาะมิเกล อัลมิรอน ที่ยิงแล้วโยนทิ้งเหมือนรอเวลาที่เครื่องจักรสีแดงระเบิดความร้อนแรงที่ เพียงเวลาที่เหมาะสม

ด้วยเหตุนี้ ลิเวอร์พูล ที่ยังเหลืออีกเพียง 10 คน ยิ่งเล่นมาก ยิ่งมั่นใจ เมื่อป้องกันเกมรุกของเจ้าบ้านได้ไม่ยาก นอกจากนี้พวกเขายังมีทีมโจมตีที่แข็งแกร่งพร้อมที่จะทำลายคู่ต่อสู้โดยมีโอกาสตอบโต้ได้ตลอดเวลา ราวกับมีลางบอกเหตุว่ายิ่งเกมยืดเยื้อ สาลิกาดง ก็มีโอกาสโดนตีเหมือนกัน

แต่แน่นอนว่าไม่มีใครอยากจะเชื่อว่าหงส์แดงจะทำผลงานได้ดีเกินคาดแม้จะแซงนิวคาสเซิ่ลได้สำเร็จก็ถือเป็นบทเรียนที่ดีสำหรับทีมอีสาน แต่ในขณะเดียวกันก็ยากที่จะเห็นว่าทำไมสโมสรในเมอร์ซีย์ไซด์จึงทำผลงานได้ดีเสมอเมื่อเจอกับคู่ต่อสู้รายนี้

และจากสองประตูทองของ นูเนซ ตัวสำรองที่พลิกสถานการณ์ให้ลิเวอร์พูลเก็บ 3 แต้มแบบฮาๆ ทำให้เขากลายเป็นนักเตะเรดแมชชีนคนที่สองที่ออกจากสนามไปยิงสองประตู นำทีมตีเสมอ และแซงชนะในเกมพรีเมียร์ลีก หลังจากที่ มาร์ค วอลเตอร์ ที่ทำในเกมเหย้าเอาชนะแบล็คเบิร์น 2-1 เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2535

นอกจากนี้ยังตอกย้ำว่าลิเวอร์พูลเป็นทีมที่ตายยาก มันง่ายที่จะฆ่า เนื่องจากผู้ชนะในช่วงท้ายของดาวลาตินรายนี้ทำประตูที่ 42 ที่ทีมแอนฟิลด์คว้าชัยในเกมพรีเมียร์ลีก ซึ่งดีที่สุดในบรรดาสโมสรใดๆ ในการแข่งขัน

ขณะเดียวกันทีมของคล็อปป์ไม่แพ้ใครเลยในเกมพรีเมียร์ลีก 6 นัดหลังสุด แม้ว่าพวกเขาจะเสียประตูแรกจากชัยชนะ 3 นัดก็ตาม เสมอ 3 นัดพร้อมชัยชนะ รวมถึงเกมที่พวกเขาเอาชนะเวสต์แฮม 2-1, เอาชนะบอร์นมัธ 3-1 และเอาชนะนิวคาสเซิ่ล 2-1

หลังจากผ่านไป 90 นาที ลิเวอร์พูล ซึ่งเล่นได้อย่างน่าประทับใจตลอดครึ่งหลังแม้จะมีผู้เล่นน้อยกว่า แต่ก็สามารถคว้าสามแต้มได้ แม้ว่าสถิติหลังเกมจะเป็นอันดับสองรองจากครองบอล 60:40% ยิงและแอสซิสต์ 23:9 เท่านั้น ลูกบอลเข้ากรอบเขตโทษ 8:4 ครั้ง

5. คล็อปป์ยังรังแกฮาวไม่เลิก

ไม่อาจปฏิเสธได้ว่านิวคาสเซิ่ลสร้างความผิดหวังอย่างมากให้กับแฟน ๆ เมื่อพวกเขาแพ้ลิเวอร์พูลในบ้าน แต่มันเป็นเกมพรีเมียร์ลีกนัดแรกที่ฮาวผู้ดูแลเดอะแม็กพายส์แพ้ในบ้านหากพวกเขาขึ้นนำ

อย่างไรก็ตาม นิวคาสเซิลไม่ชนะลิเวอร์พูลในเกมพรีเมียร์ลีกเป็นครั้งที่ 14 ติดต่อกัน (เสมอ 4 แพ้ 10) นับตั้งแต่ชนะในบ้าน 2-0 ในเดือนธันวาคม 2558

และแน่นอนว่าคล็อปป์ยังคงผลิตผลงานปราบฮาวต่อไปได้เพราะเกมนี้เป็นการดวลนัดที่ 15 ของสองผู้จัดการทีมจากทุกสโมสรที่พวกเขากุมบังเหียนนายใหญ่เมืองไส้กรอกชนะมากถึง 13 ลูก